ขายบ้านไปแล้ว จะนำเงินได้จากการขายไปรวมคำนวณภาษีสิ้นปีกับเงินได้อื่นดีหรือไม่?

 

🏡 ขายบ้านไปแล้ว จะนำเงินได้จากการไปรวมคำนวณภาษีสิ้นปีกับเงินได้อื่นดีหรือไม่?

พิจารณาเพื่อวางแผนภาษีที่คุ้มค่า!

การตัดสินใจขายอสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ที่ดิน หรือคอนโดมิเนียม ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่นอกจากการจัดการเรื่องผู้ซื้อ-ผู้ขายแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญและละเลยไม่ได้เลยคือ ภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่เกิดขึ้นจากเงินได้ส่วนนี้ ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(8) แห่งประมวลรัษฎากร

"ขายอสังหาริมทรัพย์" ตามประมวลรัษฎากร หมายความรวมถึง ขายฝาก แลกเปลี่ยน ให้ โอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าด้วยวิธีใด และไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่

คำถามสำคัญที่ผู้ขาย (ที่ไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ) มักจะสงสัยคือ "เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์นี้ ควรนำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่น ๆ ตอนสิ้นปี (ยื่นแบบ ภ.ง.ด. 90) หรือไม่?"

คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับว่า "อสังหาริมทรัพย์นั้นได้มาอย่างไร?" ซึ่งกฎหมายได้แบ่งไว้เป็น 2 กรณีหลัก ๆ ดังนี้:

1. 🙅‍♀️ กรณีผู้ขาย "ไม่มีสิทธิเลือก" (ต้องรวมคำนวณภาษีสิ้นปีเสมอ)

กรณีนี้คือการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งในทางค้าหรือหากำไร ตัวอย่างเช่น:

  • การซื้อมาเพื่อจัดสรรจำหน่าย
  • การปลูกสร้างอาคาร โรงเรือน อาคารชุด ทาวน์เฮ้าส์เพื่อขาย
  • การซื้อบ้านมาเพื่อปรับปรุง (Renovate) และขายต่อในราคาที่สูงขึ้น
  • กรณีอื่น ๆ ที่เข้าข่ายเป็นผู้ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

📌 ผลทางภาษี: กฎหมายถือว่าเงินได้นี้เป็นรายได้จากการประกอบธุรกิจ ผู้ขายไม่มีสิทธิเลือกเสียภาษี จะต้องนำเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์นั้นไป รวมคำนวณภาษีสิ้นปี กับเงินได้อื่น ๆ ทั้งหมด (เช่น เงินเดือน, ค่าเช่า, รายได้อื่น ๆ) เพื่อเสียภาษีตามอัตราก้าวหน้า

2. กรณีผู้ขาย "มีสิทธิเลือก" (สามารถเลือกที่จะรวม หรือไม่รวมคำนวณภาษีสิ้นปีก็ได้)

กรณีนี้คือการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ โดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร ซึ่งแบ่งย่อยได้ดังนี้:

  • อสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับมาโดยทางมรดก หรือ ได้รับจากการให้โดยเสน่หา
  • อสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย หรือเพื่อทำการเกษตรกรรม (ไม่ได้มีเจตนาจะค้ากำไรแต่แรก)
  • การขายอสังหาริมทรัพย์ภายใน 5 ปี นับแต่วันที่ได้มา ซึ่งถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย และ เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ไว้แล้ว (ตาม ม.4(6) พ.ร.ฎ. ฉบับที่ 342 พ.ศ. 2541)  

📌 ผลทางภาษี: ในกรณีนี้ เงินได้จากการขายถือว่า ได้เสียภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว ณ วันโอน ผู้ขายจึง มีสิทธิเลือก ดังนี้:

  • เลือกที่จะไม่รวมคำนวณภาษีสิ้นปี: ถือว่าภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้แล้วเป็นอันสิ้นสุด ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่ม
  • เลือกที่จะนำไปรวมคำนวณภาษีสิ้นปี: ต้องนำเงินได้ทั้งหมดไปรวมกับเงินได้อื่น ๆ (เช่น เงินเดือน) เพื่อคำนวณภาษีตามอัตราก้าวหน้า และขอคืนภาษีที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายไว้แล้ว

 

💡 วางแผนภาษี: ควรเลือก "รวม" หรือ "ไม่รวม" ดีกว่ากัน?

สำหรับผู้ขายที่ มีสิทธิเลือก (กรณีที่ 2) การตัดสินใจว่าจะรวมหรือไม่รวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่น ๆ ตอนสิ้นปี ควรพิจารณาจาก อัตราภาษีที่ต่างกัน ดังนี้:

วิธีการ

อัตราภาษีที่ใช้

ข้อควรพิจารณา

1. ไม่รวมคำนวณภาษีสิ้นปี

ใช้อัตราภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ตามจำนวนปีที่ถือครอง) ที่เสียไปแล้ว ณ วันโอน

ง่ายและจบเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้อื่น ๆ สูงมากอยู่แล้ว เช่น อัตรา 20% ขึ้นไป

หากนำเงินก้อนนี้ไปรวมแล้ว อาจทำให้ฐานภาษีสูงขึ้น

2. นำไปรวมคำนวณภาษีสิ้นปี

ใช้อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบก้าวหน้า สูงสุด 35%

อาจคุ้มค่ากว่า สำหรับผู้ที่มีเงินได้อื่น ๆ น้อยมาก หรือไม่ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี

สามารถหักค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น หากมีค่าลดหย่อนจำนวนมากมาหักลดหย่อน เช่น ค่าเบี้ยประกันชีวิต ประกันบำนาญ PVD RMF ดอกเบี้ยบ้าน เงินบริจาค เป็นต้น อาจจทำให้จ่ายภาษีน้อยลงหรือขอคืนภาษีได้

🔑 เคล็ดลับ: หากคุณมีเงินได้อื่น ๆ (เช่น เงินเดือน) ที่ทำให้คุณต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่าอัตราเฉลี่ยที่ถูกหัก ณ ที่จ่ายจากการขายอสังหาริมทรัพย์ มักจะ เลือกไม่รวม จะคุ้มค่ากว่า แต่ถ้าคุณมีรายได้อื่น ๆ น้อยมาก การ เลือกนำมารวม อาจทำให้คุณเสียภาษีในอัตราที่ต่ำลงและได้เงินภาษีที่หัก ณ ที่จ่ายคืน

 

วิธีตัดสินใจที่ง่ายที่สุด: ให้ลองคำนวณเปรียบเทียบดู 2 แบบ

•         แบบ A (ไม่รวม): นำภาษีที่คุณเสียไปแล้ว (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย) บวกกับภาษีเงินได้อื่น ๆ ที่คำนวณได้โดยไม่รวมกับเงินได้จากการขายบ้าน

•         แบบ B (นำไปรวม): ภาษีที่คำนวณโดยนำเงินได้จากขายบ้าน ไปรวมกับเงินได้อื่น ๆ แล้วหักด้วยค่าใช้จ่ายตามประเภทเงินได้ และหักด้วยค่าลดหย่อนทั้งหมดที่มี

แล้วนำผลลัพธ์จากทั้งสองแบบมาเปรียบเทียบ ว่าแบบไหนที่คุณเสียภาษีน้อยกว่ากัน หรือได้เงินภาษีคืนมามากกว่ากัน

การวางแผนภาษีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายและบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนตัดสินใจเลือกวิธีคำนวณใด ควรปรึกษาที่ปรึกษาด้านภาษีเพื่อเปรียบเทียบตัวเลขที่แน่นอนตามฐานรายได้ของคุณจะดีที่สุด


 ชัมส์ เรียล เอสเตท ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ >> https://www.chumsrealestate.com/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2

#วางแผนภาษี #วางแผนการเงิน #ภาษีอสังหาฯ #ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา #ชัมส์เรียลเอสเตท

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นายหน้าขายบ้านให้มีข้อดีอย่างไร

นายหน้ากับมาตรฐานอาชีพ

เตรียมตัวขอสินเชื่อบ้านกับธนาคารอย่างไรดี ถึงจะมั่นใจ?